แนวคิดนี้ศึกษาถึงพฤติกรรมที่ผู้นำแสดงออกเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและประสิทธิผลตามที่ผู้นำต้องการ
โดยผู้นำแต่ละคนจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป
มหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆในสหรัฐอเมริกาได้ให้ความสนใจและทำการวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้นำ
โดยทำการศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผลสรุปที่สำคัญๆ
มีดังต่อไปนี้ (วิภาดา คุปตานนท์, 2544: 242-247)
1.ภาวะผู้นำแบบประชาธิปไตยและผู้นำแบบเผด็จการ
(Democratic leadership – Autocratic leadership) Tannenbaum และSchmidt อธิบายว่า
ผู้นำแบบประชาธิปไตยนิยมกระจายอำนาจ มอบหมายงานให้สมาชิก และเปิดโอกาสให้สมาชิกเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ในทางตรงกันข้าม ผู้นำแบบเผด็จการมักนิยมใช้ดุลยพินิจและการตัดสินใจด้วยตัวเอง
และมักไม่เปิดโอกาสให้สมาชิกเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
2.การศึกษาของ
University
of Michigan ได้แจกแจงพฤติกรรมของผู้นำที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
คือ
1).พฤติกรรมผู้นำที่มุ่งคน
(People-oriented behaviors) ที่ให้ความสำคัญต่อสมาชิกหรือพนักงาน
เข้าใจความแตกต่างและยอมรับความสำคัญของพนักงาน
มีการเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ อีกทั้งยังสนใจ
และเข้าใจความต้องการของคนงาน
2).พฤติกรรมของผู้นำที่มุ่งงาน
(Task-oriented behaviors) ที่ผู้นำเน้นความสำเร็จของการทำงาน
เน้นการสร้างงานและผลผลิตที่มีมาตรฐานสูง เน้นการใช้กฎ ระเบียบ
ข้อปฏิบัติเพื่อให้งานบรรลุเป้าหมาย
3.การศึกษาของ
Ohio State University ได้สรุปว่าพฤติกรรมของผู้นำสามารถแบ่งได้เป็น
2 ด้าน คือ
1).พฤติกรรมที่มุ่งสร้างโครงสร้าง
(Initiation structure) ที่ผู้นำให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์
การบังคับบัญชา เน้นบทบาทหน้าที่ตามตำแหน่ง
และเน้นผลงานที่เกิดจากการทำงานตามโครงสร้าง
2).พฤติกรรมที่มุ่งความสัมพันธ์
(Consideration) ผู้นำจะให้ความสำคัญกับการมีความสัมพันธภาพที่ดีกับสมาชิก
และมีส่วนร่วมในการทำงานของสมาชิก
4.Managerial Grid เป็นตัวอย่างหนึ่งของการศึกษาพฤติกรรมของผู้นำที่ผนวกแนวคิดทางพฤติกรรมต่างๆเข้าด้วยกัน
โดย Blake และMouton ได้สร้างตาราง
2 มิติ โดยให้แกนนอนแทนผู้นำที่มุ่งผลงาน (Production-oriented leader) และแกนตั้งแทนผู้นำที่มุ่งคน
(People-oriented leadership) ซึ่งผู้นำที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ได้แก่ผู้นำที่มุ่งทั้งงานและคน (มัลลิกา ต้นสอน, 2544: 52)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น