ผู้นำตามบทบาทที่แสดงออก จำแนกเป็น
3 แบบ คือ
1 ผู้นำแบบบิดา-มารดา (Parental Leadership) ผู้นำแบบนี้
ปฏิบัติตนเหมือนพ่อ-แม่
คือทำตนเป็นพ่อแม่เห็น ผู้อื่นเป็นเด็ก
อาจจะแสดงออกมาในบทบาทของพ่อแม่ที่อบอุ่น ใจดี ให้กำลังใจ หรืออาจแสดงออกตรงกันข้ามในลักษณะการตำหนิติเตียนวิพากษ์ วิจารณ์
คาดโทษ แสดงอำนาจ
2 ผู้นำแบบนักการเมือง (Manipulater Leadership) ผู้นำแบบนี้พยายามสะสมและใช้อำนาจ
โดยอาศัยความรอบรู้และตำแหน่งหน้าที่การงานของคนอื่นมาแอบอ้างเพื่อให้ตนได้มีความสำคัญและเข้ากับสถานการณ์นั้น
ๆ ได้ ผู้นำแบบนี้เข้าทำนองว่ายืมมือ ของผู้บังคับบัญชาของผู้นำแบบนี้อีกชั้นหนึ่ง
โดยเสนอขอให้สั่งการเพื่อประโยชน์แก่การสร้างอิทธิให้แก่ตนเอง
3 ผู้นำแบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert Leadership) ผู้นำแบบนี้เกือบจะเรียกว่าไม่ได้เป็นผู้นำตามความหมายทางการบริหาร
เพราะมีหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะนำแก่ Staff ผู้นำแบบนี้มักเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความรู้เฉพาะอย่าง
เช่น คุณหมอพรทิพย์ มีความเชี่ยวชาญในการตรวจ DNAถ้าพิจารณาจากบุคลิกภาพ อีริก เบิร์น
จิตแพทย์ชาวอเมริกัน
ได้วิเคราะห์โครงสร้างของบุคลิกภาพของคนว่ามีอยู่ 3 องค์ประกอบ
คือภาวะของความเป็นเด็ก (Child egostate )
ภาวะของการเป็นผู้ใหญ่
(Adult egostate ) และภาวะของความเป็นผู้ปกครอง (Parents egostate) ก็จะมองผู้นำได้เป็น 3 แบบ
1. ภาวะความเป็นเด็กในรูปแบบผู้นำ ผู้นำที่มีลักษณะเช่นนี้จะเป็นคนที่ เอาแต่ใจตัวเอง ก้าวร้าว
ดื้อรั้น กระตือรือร้น ไม่กล้าตัดสินใจ มีความคิดสร้างสรรค์
มักเป็นภาวะของผู้นำที่เต็มไปด้วยความคิดแต่ไม่ทำ
2. ภาวะผู้ใหญ่ในรูปแบบผู้นำ ผู้นำแบบนี้จะเป็นคนที่มีการวิเคราะห์ และสนใจข้อมูลเป็นหลัก
เป็นคนที่มุ่งความสำเร็จ
โดยไม่สนใจความรู้สึกของลูกน้อง
อยู่ในโลกแห่งเหตุและผล ไม่มีอารมณ์ขันพูดง่าย
ๆ ก็คือ
เป็นคนที่จริงจังกับทุกเรื่องโดยเฉพาะกับลูกน้อง
3. ลักษณะภาวะพ่อแม่ในแบบผู้นำ
ผู้นำเช่นนี้จะเป็นผู้นำที่ออกจะเผด็จการ
ติชมลูกน้องเสมอ
ถ้าดีจะเป็นห่วงเป็นใย คอยปกป้อง
อีกด้านก็คือรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ
โดดเดี่ยว มีความลึกลับ ออกคำสั่งอย่างเดียวไม่ค่อยฟังความเห็น
ศูนย์วิจัยของมหาวิทยาลัย Michigan ได้ศึกษาพฤติกรรมของผู้นำ
แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. ผู้นำที่มุ่งคน (Employee Oriented) คือผู้นำที่เน้นความมีสัมพันธภาพที่ดีกับพนักงาน
กับบุคคลทั่วไป ยอมรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น